ผสมนับสิบปีกว่าจะมีโคพันธุ์กำแพงแสน
ที่ญี่ปุ่นมีเนื้อโกเบ ที่ออสเตรเลียมีเนื้อออสเตรเลีย ส่วนในไทยก็มีเนื้อกำแพงแสน ไม่น้อยหน้าเนื้อดีจากต่างประเทศ เนื้อชั้นดีของไทยนี้มาจากโคพันธุ์กำแพงแสน เหตุที่มีชื่อพันธุ์เช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าส่วนใหญ่เค้าจะนิยมตั้งชื่อตามถิ่นกำเนิด และแน่นอนว่าโคสายพันธุ์นี้ถือกำเนิดขึ้นที่อำเภอกำแพงแสน ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน แห่งนี้
กว่าที่เราจะได้โคพันธุ์กำแพงแสน มาทำเป็นสเต๊กแสนอร่อย เนื้อนุ่ม มีไขมันแทรก นั้น มันผ่านการเดินทางอันแสนยาวนานมาก่อน นับย้อนกลับไปเมื่อ 50 กว่าปีก่อน อาจารย์จากภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ลองนำน้ำเชื้อสายพันธุ์ต่างชาติเข้ามาทดลองผสม พัฒนาอยู่นานประมาณ 20 กว่าปี ถึงจะได้เป็นโคสายพันธุ์กำแพงแสน ที่มีสายเลือดของทั้งโคไทยพื้นเมือง บราห์มัน และชาโรเลส์ ผสมกันอย่างลงตัว
โคที่ได้มานั้นเลี้ยงง่าย โตเร็ว มีสีสม่ำเสมอ เหมาะกับการเลี้ยงในสภาพแวดล้อมของเมืองไทย เพราะเกิดจากการเอาข้อดีของทั้ง 3 สายเลือดมารวมกัน ต่อมาก็มีการสร้างมาตรฐานความเป็นเลิศของโคพันธุ์กำแพงแสนขึ้นมาโดยสมาคมโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน ที่กำหนดไว้ทั้งสายเลือด สี และรูปทรง จวบจนถึงปัจจุบัน นอกจากโคสายพันธุ์กำแพงแสนจะมีเกษตรกรนำมาเลี้ยงมากมายแล้ว โคเหล่านี้ก็ช่วยเลี้ยงชีวิตเกษตรกรไม่ต่างกัน
กว่าจะได้เป็นโคที่เลี้ยงง่าย มีเนื้ออร่อย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องอาศัยเวลาเป็นหลายสิบปี แต่ก็นับว่าไม่เสียแรงเปล่า เพราะทุกวันนี้โคพันธุ์กำแพงแสนกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ และเข้าไปอยู่ในอาหารหลากหลายเมนู ทั้งไส้กรอก เบอร์เกอร์ เนื้อย่าง หรือสเต๊ก อ่านมาถึงตรงนี้ คงมีหลายคนอยากลองชิม เราขอแนะนำให้ไปหาซื้อสินค้าแบรนด์ KU Beef แล้วรับรองจะไม่ผิดหวังในความอร่อย สะอาด ปลอดภัย และที่สำคัญทำมาจากเนื้อโคพันธุ์กำแพงแสน